M.K. Unigroup Corporation

เลือกความหวาน ทดแทน น้ำตาลทราย

admin01
mkunigroup

นํ้าตาล เป็นสารชีวโมเลกุล คาร์โบไฮเดรต ประเภท สารให้พลังงาน ที่มีรสชาติหวาน ละลายได้ดีในนํ้า นิยม นำมาใช้ ประโยชน์ หลายด้าน เช่น การปรุงรสชาติอาหาร ชนิดของน้ำตาล ที่นำมาใช้ ประโยชน์มาก ได้แก่ น้ำตาลซูโครส หรือ น้ำตาลทราย

 

น้ำตาลซูโครส หรือ น้ำตาลทราย เป็นผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม ที่ผลิตจากอ้อย ในเขตร้อน และ ผลิตจาก หัวบีทรูท ในเขตอบอุ่น โดยมี กรรมวิธี การผลิต ที่คล้ายกัน คือ การสกัด เอาสารละลายน้ำตาล นำมากรอง ต้มระเหยน้ำออก และ สุดท้าย เป็นการตกผลึก ได้เป็นก้อนน้ำตาล ขนาดเล็ก

น้ำตาล เป็นเหมือน สารเสพติดชนิดหนึ่ง ไม่ต่างจาก คาเฟอีนในกาแฟ เมื่อเรา รับน้ำตาล เข้าร่างกาย สมองก็จะหลั่ง สารแห่งความสุข ชื่อ โดพามีน ( Dopermine ) ออกมา ให้เรารู้สึก เสพติดความสุข จากการ กินน้ำตาล ทำให้เกิด ภาวะเสพติดน้ำตาล เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถ้าหาก กินมากเกินไป อาจเสี่ยงต่อโรคภัยได้

 

 แต่ถ้าจะให้ดี ต่อสุขภาพ ลองเลือกความหวาน ทดแทน น้ำตาลทราย ที่มาจากธรรมชาติ จะดีกว่า โดยมีตัวเลือก ดังนี้

 

1. น้ำตาลหญ้าหวาน ( Stevia )

น้ำตาล หรือ น้ำเชื่อม จากหญ้าหวาน นิยมใช้กันมาก ในวงการอาหาร และกลุ่มคนรักสุขภาพ เป็นสมุนไพร ที่ให้ความหวาน มากกว่า น้ำตาลทราย ถึง 450 เท่า อีกทั้ง ยังให้รสชาติ ที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสารสกัด ในหญ้าหวาน เรียกว่า สตีวิโอไซด์ ( stevioside ) เป็นสารให้ความหวาน ที่ให้พลังงานต่ำ จึงเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับ คนที่ต้องการ ควบคุมน้ำหนัก หรือ ควบคุมน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะ สายคลีน และ มังสวิรัติ ที่งดวัตถุดิบ แปรรูปต่างๆ

 

2. น้ำตาลอินทผลัม หรือ อินทผาลัม ( Date sugar )

หลายๆ คน อาจเข้าใจว่า น้ำตาลอินทผลัม มาจาก การสกัด เป็นน้ำตาลจริงๆ แต่แท้จริง มันคือ ผลอินทผลัมแห้ง ที่บรรจุขาย ตามท้องตลาด เราสามารถ ใช้อินทผลัม มาเติมความหวาน ให้ขนมแสนอร่อยได้ ซึ่งให้ปริมาณ ความหวานพอๆ กับ น้ำตาลทรายแดง แต่จะมีรสชาติ ที่หวานละมุน มากกว่า สิ่งที่ทำให้ อินทผลัมเหนือกว่า ก็คือ ใยอาหาร ที่ช่วยป้องกันท้องผูก และยังอุดมไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระ ที่เข้มข้นขั้นสุด เมื่อเทียบกับ น้ำตาลปกติ ที่แทบจะ ไม่มีวิตามิน และแร่ธาตุใดๆ เลย

 

3. น้ำตาลหล่อฮังก๊วย ( Monkfruit sweetener )

ผลไม้นี้ ถูกใช้ในการแพทย์แผนจีน มานานนับศตวรรษ และยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่สามารถ ใช้ทดแทนน้ำตาล โดยให้ความหวาน มากกว่า น้ำตาลปกติ ถึง 300 เท่า แต่ค่าแคลอรี่เป็นศูนย์ เพราะว่า ความหวาน ที่ได้จากหล่อฮังก๊วย เป็นความหวาน จากธรรมชาติ เรียกว่า โมโกรไซด์ ( Mogroside ) ที่มีคุณสมบัติ ต้านอนุมูลอิสระ และ ลดการอักเสบ ในร่างกาย จึงเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับ คนที่กำลัง ลดน้ำหนัก และ คนที่เป็นเบาหวานด้วย

 

4. น้ำผึ้ง ( Honey )

ในน้ำผึ้ง มีสารต้านอนุมูลอิสระ มากมาย ช่วยลดอาการ อักเสบต่างๆ และทำให้ รู้สึกสดชื่น อีกทั้ง ยังให้รสชาติ ที่หวานหอม ละมุน จึงนิยมนำมาเป็น ส่วนผสม ในเมนูเบเกอรี หรือเครื่องดื่ม และที่สำคัญ ถึงแม้น้ำผึ้ง จะอร่อย มีประโยชน์ แต่ก็อย่าทานมากจนเกินไป เพราะความหอมหวาน ที่เข้มข้นจากน้ำผึ้ง เพียงเล็กน้อย แค่ 1 ช้อนชา สามารถให้ความหวาน เทียบเท่าน้ำตาล 3 ช้อนชา เลยทีเดียว

 

เรื่องความหวานมันอดกันไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกทานน้ำตาลได้ เพื่อประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายนะคะ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

สร้างความหลากหลาย ให้กับ เค้กกล้วยหอม

12 อุปกรณ์ ทำเบเกอรี่ ที่ต้องมีติดครัว