M.K. Unigroup Corporation

Crème Brûlée: ขนมฝรั่งเศสคลาสสิก ราคาแสนหรูหรา แต่ทำง่ายมากๆ

admin01
mkunigroup

Crème Brûlée หรือ แครมบรูว์เล เป็นขนมหวานจากแดนน้ำหอม ที่ทำจากฐานคัสตาร์ดเข้มข้น ที่ราดด้วยชั้นของน้ำตาลคาราเมล โดยปกติจะเสิร์ฟแบบแช่เย็นและตกแต่งด้วยผลไม้สด และในวันนี้ เราจะมาทำความรู้จัก และ ดูสูตรการทำเจ้าขนมฝรั่งเศสชิ้นนี้กัน!

Crème Brûlée หรือ แครมบรูว์เล ในภาษาฝรั่งเศส แปลว่า "ครีมไหม้" ต้นกำเนิดของขนมชิ้นนี้ ยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่า มีต้นกำเนิดในฝรั่งเศส ในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 เดิมรู้จักกันในชื่อ "Creme Anglaise" หรือ ครีมอังกฤษ และ คล้ายกับของหวานที่เรียกว่า "Trinity Cream" โดยมีวิธีการทำคล้ายกันกับ Crème Brûlée และ มีผิวหน้าขนมที่ไหม้เหมือนกัน ซึ่งเป็นที่นิยมในอังกฤษในขณะนั้น

ในเวลาต่อมา ของหวานชนิดนี้ เริ่มแพร่หลายมากขึ้น สามารถพบเห็นได้ทั้วไปใน ศตวรรษที่ 18 โดยปรากฏให้เห็นใน เมนูของร้านกาแฟและ ร้านอาหารฝรั่งเศสต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นที่ชื่นชอบของ ราชวงศ์ฝรั่งเศสอีกด้วย โดยมีรายงานว่า พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นแฟนตัวยงของขนมชิ้นนี้

สูตรแรกที่รู้จักสำหรับ Crème Brûlée ปรากฏใน ตำราอาหารฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1691 แต่สูตรนี้ แตกต่างอย่างมาก จากของหวานที่เรารู้จักในปัจจุบัน มันทำด้วยครีม , ไข่แดง , น้ำตาล และ ไวน์ และ เสิร์ฟแบบเย็น โดยไม่มีน้ำตาลคาราเมลด้านบน

กาลเวลาผ่านไป Crème Brûlée เวอร์ชั่นสมัยใหม่ก็ได้เผยหน้าตาที่ดูน่าทานขึ้น ซึ่งมีฐานเป็นคัสตาร์ด และ ท็อปปิ้งด้วยน้ำตาลเคลือบคาราเมล ทำให้มันได้รับความนิยมมากขึ้น จนถึงช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ในปัจจุบัน เป็นอาหารหลักของอาหารฝรั่งเศส สามารถทานคู่กับชา หรือ กาแฟเป็นของทานว่างได้ และ ยังนิยมรับประทานในส่วนอื่น ๆ ของโลกอีกด้วย

ทุกวันนี้มี Crème Brûlée หลายรูปแบบ โดยมีรสชาติ และ ท็อปปิ้งที่แตกต่างกัน เชฟบางคนได้ทดลองกับของหวาน ในเวอร์ชั่นของคาว โดยผสมผสานส่วนผสมต่าง ๆ ที่ไม่ใช่เบเกอรี่เข้าด้วยกัน เช่น ชีสและเบคอน แม้จะมีประวัติอันยาวนาน แต่ความอร่อยของ Crème Brûlée ก็ยังคงเป็นของหวานที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยเนื้อครีมที่เข้มข้น และ ท็อปปิ้งด้วยคาราเมลกรุบกรอบ

creme

และนี่คือสูตรสำหรับ Crème Brûlée แบบคลาสสิก

วัตถุดิบ

Heavy Cream 1 ควอร์ต (1 ใน 4ของ แกลลอน)

ฝักวานิลลา 1 ฝัก แยกฝัก และ ขูดออกเอาเมล็ด

8 ไข่แดง

น้ำตาลทรายละเอียด 1/2 ถ้วยตวง

น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ และ คำแนะนำ

  1. เปิด และ อุ่นเตาอบของคุณ ไว้ล่วงหน้าที่ 162 - 163 องศาเซลเซียส
  2. ใช้หม้อ หรือ กระทะที่มีก้นกว้าง อุ่น Heavy Cream และฝักวานิลลา(ทั้งฝักและเมล็ดที่ขูด) บนไฟร้อนปานกลาง จนเดือดปุด ๆ นำออกจากเตา แล้วปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที เพื่อให้กลิ่นวานิลลาแทรกเข้าไป
  3. ใส่ ไข่แดง และ น้ำตาลทราย ในชามผสม ตีทั้งสองส่วนผสม ด้วยตะกร้อมือ หรือ เครื่องปั่นไฟฟ้า ให้เข้ากัน จนสีซีดเป็นสีขาวนวล และกลายเป็นครีม
  4. นำเม็ดวานิลลา ออกจาก Heavy Cream หม้อ หรือ กระทะที่มีก้นกว้าง แล้วค่อย ๆ เทส่วนผสมในนั้น ลงในส่วนผสมของไข่แดง ทีละก้อน ๆ และ ตีครีมตลอดเวลา
  5. เมื่อส่วนผสมเข้ากันแล้ว ให้เทผ่านกระชอนตาถี่ เพื่อเอาเม็ดวานิลลา ที่เป็นก้อน หรือ เป็นชิ้น ๆ ออก
  6. แบ่งส่วนผสมระหว่าง ramekins หรือ ถ้วยคัสตาร์ดขนาดเล็ก ไว้ใช้สำหรับการอบขนม มาหกถ้วย เติมให้เกือบถึงด้านบน
  7. วาง ramekins ลงในจานอบใบใหญ่ แล้วเติมน้ำร้อน ให้พอท่วมครึ่งด้านของ ramekins
  8. นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ ประมาณ 40 - 50 นาที หรือ จนคัสตาร์ดเซ็ตตัว แต่ยังมีความนุ่มอยู่ตรงกลาง
  9. นำ ramekins ออกจากน้ำร้อนที่เติม และ ปล่อยให้เย็นลงที่อุณหภูมิห้อง เมื่อเย็นแล้ว ให้นำไปแช่เย็นในตู้เย็น อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือ นานถึง 2 วัน
  10. เมื่อพร้อมเสิร์ฟ ให้โรยน้ำตาลทรายแดงบาง ๆ ของด้านบนคัสตาร์ดแต่ละอัน และใช้ ปืนยิงไฟสำหรับงานครัว เพื่อทำให้น้ำตาล เปลี่ยนจาก สีขาวเป็นสีน้ำตาลเข้ม นอกจากนี้ น้ำตาลจะละลาย เป็นคาราเมล จนเป็นชั้นที่กรอบอยู่ด้านบน
  11. ทิ้ง Crème Brûlée ไว้ในอุณหภูมิห้อง ไว้สักระยะหนึ่ง หรือสองนาที เพื่อให้น้ำตาลเย็นลง และเซ็ตตัว จากนั้นก็เชิญเสิร์ฟ และ เพลิดเพลิน เอ็นจอยอีทติ้งกันเลย!

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ความเป็นมาของ มาการอง ( Macaron ) ขนมหลากสีสันยอดฮิต

รูปแบบ ไอศกรีม ( Ice Cream ) ตามส่วนผสมหลัก