M.K. Unigroup Corporation

หัวใจสำคัญ ของ การทำ เบเกอรี่ ให้เนื้อขนม ฟู นุ่ม แสนอร่อย

admin01
mkunigroup

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบ และ หลงรัก ในการทำ ขนม และ เบเกอรี่ต่าง ๆ แล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาด กับ สื่งดี ๆ ที่เรา นำมาฝาก ในวันนี้ นั่นก็ คือ หัวใจสำคัญ ของ การทำ เบเกอรี่ ให้เนื้อขนม ฟู นุ่ม แสนอร่อย ที่หากเพื่อน ๆ ได้นำ ไปปรับใช้ รับรองว่า อร่อยชัว ๆ

 

เพื่อน ๆ ที่ ชอบทำ เบเกอรี่ หรือว่า เป็นมือใหม่ นั้น คงเจอปัญหา ขนมไหม้, เนื้อเค้กไม่ขึ้นฟู, เค้กแข็ง หรือว่าสุกแต่ข้างนอก ถือเป็นสิ่งที่ผู้ทำขนมอบ ประเภทเบเกอรี่หลาย ๆ คนเจอ นั่นเพราะ เกิดจากความไม่แม่นยำ ในเรื่องของอุณหภูมิ ที่เกิดขณะการอบซึ่งการควบคุมอุณหภูมิของเตาอบ คือ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ขนม ออกมามีความสมบูรณ์แบบที่สุด เพราะด้วย ตัวเลขที่คลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะทำให้เมนูที่คุณทำนั้น อาจพังไม่เป็นท่า เพื่อช่วยให้ขนมของคุณนั้นน่ารับประทาน รูปลักษณ์ภายนอกดูดีน่าดึงดูด เราก็มีเคล็ดลับ ในการอบให้เนื้อขนม นุ่ม ฟู และอร่อยมาฝากเพื่อน ๆ กัน

 

1. ต้องวอร์มเตา ก่อนอบ ประมาณ 15 - 20 นาที

หรือว่า จนได้อุณหภูมิที่ต้องการ เป็นขั้นตอนแรก ในการการอบขนม ซึ่งมีความจำเป็น เพราะว่า หากไม่วอร์มเตาก่อนอบ จะทำให้ผิวของขนมอบไม่แห้งสนิท หรือเนื้อเค้กฟูไม่เต็มที่ เมื่อวอร์มเตาอบ จนได้อุณหภูมิที่ต้องการแล้ว จึงค่อยวางขนมเข้าไปในเตา โดยก่อนใช้งานเตาอบครั้งแรก และหลังจากใช้งานเตาอบทุก ๆ ครั้ง ควรเปิดเครื่องโดยใช้โปรแกรม ทั้งไฟบนและไฟล่าง ปรับอุณหภูมิที่ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ความร้อนจะทำการเผาไหม้ เจ้าคราบไขมันและเศษอาหาร ที่ติดผนังด้านข้าง ให้ตกลงไปสู่ถาดล่างของเตาอบ จากนั้นให้นำถาดรองทั้งด้านบน และล่างออกมาทำความสะอาดด้วย

 

2. การใช้ไฟ ทั้งไฟบน - ไฟล่าง

- การอบคุกกี้, บราวนี่, คัพเค้ก นั้นโดยทั่ว ๆ ไป จะใช้ไฟบน-ล่าง เพื่อทำให้ เจ้าชิ้นขนมสุกทั่วทั้งชิ้น

- การอบเค้ก ควรใช้ไฟล่าง ไปเพียงอย่างเดียวก่อนในช่วงแรก เพราะว่า จะทำให้ขนมไม่แตกตรงกลาง แต่ถ้าใช้ไฟล่าง แล้วหน้าขนมมีสีซีดเกินไป สามารถปรับเป็น ไฟบน-ล่าง หรือว่าไฟบนอย่างเดียวได้ ในช่วงท้ายของการอบได้

- การอบขนมปัง ที่เรียงใส่ถาดนั้น จะใช้ไฟบน-ล่าง แต่ถ้าอยู่ในพิมพ์ จะใช้ไฟล่างอย่างเดียว ระหว่างของการอบขนม ก็ไม่ควรเปิดเตาบ่อย ๆ เพราะนั่น จะทำให้เตาอบสูญเสียความร้อน ควรอบจนกว่าขนม จะมีโครงสร้างที่ดี ไม่เช่นนั้นแล้ว จะทำให้ขนมยุบ และไม่ขึ้นฟู ซึ่ง เคล็ดลับสำคัญ ของการอบขนมปัง ก็คือ นมข้นจืด เนื่องจากนมข้นจืด นั้นมีคุณสมบัติที่ดี ในการให้สีของขนมปัง โดยการนำนมข้นจืด 1 ส่วน ผสมน้ำ 1 ส่วนแล้วทาไปที่หน้าขนมปัง หลังจากนำออกจากเตาอบ ก็จะทำให้ผิวขนมปังที่ได้นั้นมีสีสวย เงา ดูน่ารับประทานมากขึ้นค่ะ

 

3. เลือกใช้พิมพ์ ในการอบขนม

ซึ่งพิมพ์สำหรับอบขนม ก็มีหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นขนาด วัสดุและรูปทรงต่างๆ เพื่อน ๆ สามารถเลือกใช้ได้ตามประเภทของขนมเลยค่ะ

- พิมพ์กลม เหมาะสำหรับ เบเกอรี่ก้อนนใหญ่ ๆ ประเภทปอนด์ อาทิ สปันจ์เค้ก, ชิฟฟ่อนเค้ก, และควรใส่ ส่วนผสมประมาณ 2/3 ของพิมพ์ เพื่อให้มีพื้นที่ ที่ให้ตัวเค้กขึ้นฟู หลังจากอบเสร็จแล้ว แต่ถ้าใส่ส่วนผสมเพียงครึ่งนึงของพิมพ์ ก็จะได้เค้กที่เตี้ยหน่อยนะ แต่ก็จะสามารถอบได้สุกเร็วกว่านั่นเอง

- พิมพ์โลฟ (Loaf) เหมาะสำหรับเบเกอรี่ พวกประเภทขนมปังต่างๆ และควรทาไขมัน รอบ ๆ พิมพ์ทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เนื้อขนมนั้นติดพิมพ์ ส่วนพิมพ์จีบ หรือว่าพิมพ์ถาดหลุม ก็เหมาะกับขนมประเภทคัพเค้ก มัฟฟิน โดยให้วางเรียงไว้บนถาด แต่ว่าไม่ควรวางชิดติดกันเกินไป เพราะนั้น ขนมจะสุกไม่ทั่วถึง

 

4. เคาะถาดด้วยเพื่อไล่ฟองอากาศ

เพื่อให้ขนมมีเนื้อสัมผัสที่ได้สมบูรณ์ หลังจากเตรียมส่วนผสมแป้งใส่ถาดไว้ ก่อนนำไปเข้าเตาอบ ให้เคาะถาด หรือพิมพ์ โดยประมาณ 2 - 3 ครั้ง เพื่อไล่ฟองอากาศ ให้ออกจากเนื้อแป้ง เพราะจะช่วยทำให้อบขนม ได้อย่างทั่วถึงกัน โดยวิธีเช็คความสุกของขนม ให้ใช้ไม้จิ้ม จิ้มตรงกลางเค้ก หากไม่มีเนื้อเค้ก ที่เป็นน้ำๆ ติดไม้ขึ้นมานั้น แสดงว่าขนมสุก

 

5. การอบรองน้ำ

นั่นคือ การนำถาดหรือพิมพ์ขนม ที่เราจะอบไปวางไว้ในถาดที่ใส่น้ำไว้ เพื่อป้องกัน ไม่ให้ก้นขนมไหม้ ใช้สำหรับขนมบางประเภท ที่จะต้องการรักษาลักษณะของส่วนที่อยู่ก้นถาดไว้ อาทิ เค้กสังขยา คัสตาร์ดเค้ก เป็นต้น แต่การอบรองน้ำ ก็จะส่งผลให้หน้าขนมแฉะได้ ซึ่งการอบแบบนี้ ก็ไม่เหมาะกับขนมบางชนิด อย่างเช่น บัตเตอร์เค้ก เพราะอาจทำให้ เจ้าเนื้อขนมด้าน หรืออาจแตกตรงกลางได้

 

นอกจากวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ได้คัดสรรมาอย่างดี มีคุณภาพและขั้นตอนวิธีการทำที่ถูกต้องแล้วนั้น อุณหภูมิในการอบ ก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่จะช่วยทำให้ขนม ของเรานั้นมีหน้าตาและสีสันชวนรับประทาน โดยเฉพาะเคล็ดลับการเลือกใช้นมข้นจืด มาทำเบเกอรี่ เพราะว่า ส่วนผสมจากนม จะทำให้เนื้อสัมผัสนั้นเข้มข้น ช่วยให้เบเกอรี่ที่ทำมีเนื้อเนียน ละเอียด ฟู ให้กลิ่นหอมนม ช่วยให้สีสันของเบเกอรี่ ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น และที่สำคัญช่วยประหยัดต้นทุน แต่ยังได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ช่วยให้เบเกอรี่ของคุณหอม นุ่ม อร่อย นั่นเองค่ะ

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ประเภทต่างๆ ของ เบเกอรี่ มีอะไรบ้างนะ ?

ช็อกโกแลตหน้านิ่ม สูตรนี้ อร่อยแน่