M.K. Unigroup Corporation

ทำความรู้จักกับ ไอศกรีม ซอร์เบท ( Sorbet)

admin01
mkunigroup

ไอศกรีม ซอร์เบท ( Sorbet) ของหวานชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะคล้ายกับ ไอศกรีม และเจลาโต้ แต่ทำมาจาก ผลไม้ ซึ่งไอศกรีม ซอร์เบท จะมีความแตกต่างจาก ไอศกรีมทั่วไป หรือเจลาโต้ อย่างไร วันนี้เรามา ทำความรู้จัก ของหวานชนิดนี้ มากขึ้นกันครับ

 

ซอร์เบท คืออะไร ?

 

ซอร์เบท ( Sorbet ) เป็นของหวานแช่แข็ง ( Frozen Dessert ) ที่ทำมาจาก น้ำหวาน ที่มีรสชาติของผลไม้ หรือ เนื้อผลไม้ละเอียด ไปจนถึงมีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ นำไปแช่แข็ง จะมีลักษณะเป็นเกล็ดน้ำแข็ง โดยซอร์เบท จะมีส่วนผสมหลัก ๆ อยู่เพียง 2 อย่างเท่านั้น คือ ผลไม้ และน้ำตาล แต่จะไม่มีส่วนผสมของนม หรือไขมัน เหมือนกับ ไอศกรีมทั่วไป หรือเจลาโต้ ซึ่งหากจะให้นิยามถึง ซอร์เบท แบบง่าย ๆ ก็คือ น้ำผลไม้ปั่นแบบแช่แข็ง นั่นเอง

 

ประวัติศาสตร์ของ ซอร์เบท

 

ในประวัติศาสตร์ มีหลักฐานที่ไม่ค่อยแน่ชัดมากนักว่า  การใช้ น้ำแข็งมาประกอบอาหาร  หรือเอามาทำเป็นของหวาน มีต้นกำเนิดมาจากที่ใดกันแน่ โดยเชื่อกันว่า อารยธรรมแรกที่ทำ ซอร์เบท ( Sorbet ) ขึ้นมา คือ ชาวเปอร์เซีย แต่ก็มีตำนาน เรื่องเล่า เกี่ยวกับ แหล่งที่มาอื่น ๆ อีกมาก เช่น จักรพรรดิ Nero แห่งโรมัน ให้ทาสไปเอา น้ำแข็งบนภูเขา แอเพนไนน์ มาเพื่อผสมกับไวน์ และน้ำผึ้ง เกิดเป็น ซอร์เบท ( Sorbet ) ในขณะเดียวกัน ก็มีตำนาน เรื่องเล่ามาจากทางจีนว่า จักรพรรดิของจีน ก็ชื่นชอบของหวานที่มีส่วนผสมของ น้ำแข็ง ไม่ต่างกัน

 

แม้แต่ใน ทางตะวันออกกลาง ก็มีหลักฐาน เช่นกัน คือ ในยุคกลาง มีเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า Sharbat เป็นเครื่องดื่มเย็น ที่มีกลิ่น และรสของดอกไม้ ผลไม้ มีรสหวาน เมื่อมนุษย์จาก อารยธรรมอื่น เริ่มมีการติดต่อ หรือทำการค้าขายกัน ทั้งฝั่งยุโรป ตะวันออกกลาง จีน องค์ความรู้ทั้งหมด จึงเริ่มมารวมกัน และหนึ่งในนั้น หลายคน ยกความดีความชอบให้กับ Marco Polo ในการเดินทางไปจีน ทำให้ชาวอิตาลี เริ่มรู้จักกับ ของหวานที่ทำจากน้ำแข็ง

 

การเรียก “ซอร์เบท”  แต่ดั้งเดิมถูกเรียก ในภาษาอิตาเลี่ยนว่า Sorbetto เป็นการสื่อถึง เครื่องดื่มรสหวาน และเย็น ที่ชาวเติร์กในจักรวรรดิ Ottoman ดื่มกัน ก่อนจะกลายเป็นคำว่า Sorbet ที่เป็นการอ่านแบบ ภาษาฝรั่งเศส เนื่องจาก Catherine de’ Medici ขุนนางอิตาลี ผู้ที่ในกาลต่อมากลายเป็น ราชินีแห่งฝรั่งเศส นำของหวานจากบ้านเกิดของเธอ เดินทางไปฝรั่งเศสด้วย

 

จากจุดนี้ ซอร์เบท ( Sorbet ) ก็เริ่มแพร่ไปทั่วยุโรป และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึง พ่อครัว ในยุคต่อมา ได้มีการคิดค้นสูตรใหม่ ๆ ทำให้เกิด ของหวานเย็น อีกมากมาย หนึ่งในนั้นคือ ไอศกรีม ( Ice Cream ) ที่เกิดจากการผสมนม ลงไปในขั้นตอนการทำ ซอร์เบท หรือการนำช็อกโกแลต ที่เพิ่งเดินทางมาจาก ทวีปอเมริกา มาใช้ในการทำขนม ตลอดศตวรรษที่ 17 เรียกว่าเป็นยุคที่ ซอร์เบท และของหวานแช่แข็ง พัฒนาอย่างก้าวกระโดด

 

แต่ของหวานเหล่านี้ ยังไม่ใช่ ของหวาน ที่คนทั่วไปจะมีโอกาสได้รับประทานกัน เพราะ การเก็บรักษายาก มีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้มีแต่คนรวย ขุนนาง เชื้อพระวงศ์ เท่านั้น จนกระทั่ง การถือกำเนิดขึ้นของ เทคโนโลยีการเก็บความเย็น สำหรับใช้ในครัวเรือนอย่าง “ตู้เย็น” ที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นครั้งแรก ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และเทคโนโลยีในการผลิต และเก็บอาหารของมนุษย์ ในด้านอื่น ๆ ก็ถูกพัฒนาขึ้นมากด้วย ทำให้ของหวานแช่แข็ง เหล่านี้ กลายเป็นสิ่งที่ทุกคน ก็สามารถลิ้มรสได้ นั่นเอง

 

การใช้ ผลไม้ ในการทำ ซอร์เบท

 

การทำ ซอร์เบท ( Sorbet ) มักจะใช้ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว โดยเฉพาะ ส้ม มะนาว สตรอว์เบอร์รี ราสเบอร์รี ที่มีความเปรี้ยว และหวาน มีความเบา ให้ความสดชื่น ทำให้ล้าง รสอาหารหลักได้ดี แต่นั่น ไม่ได้หมายความว่า ซอร์เบท ต้องเป็น “ผลไม้รสเปรี้ยว” เสมอไป เพราะในปัจจุบัน ซอร์เบท ( Sorbet ) ก็ได้ถูกนำมาใช้กับ ผลไม้หลากหลายรูปแบบ แล้วแต่ผลไม้ของท้องถิ่น หรือผลไม้ตามฤดูกาล และสำหรับ ในประเทศไทย เราจะเห็นการใช้ ผลไม้ต่าง ๆ เช่น มะม่วง เสาวรส ลิ้นจี่ มะยงชิด แก้วมังกร เป็นต้น ขึ้นอยู่กับ ความชอบของแต่ละบุคคล

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เจลาโต vs. ไอศกรีม แตกต่างกันอย่างไร

ความแตกต่าง ของ คุกกี้เนย และ คุกกี้ไข่